skip to main |
skip to sidebar
Rain
เบิกบานบุรี ฝนโปรยโรยพื้น โดยก่อนหน้า ฟ้าร้องโวยวายโครมคราม ทั่วผืนพิภพฟ้าร้อง อาจเป็นสัญญาณแห่งความสุข สำหรับชาวนา ชาวสวนฟ้าร้อง อาจเป็นสัญญาณแห่งความงอกงาม ของดอกไม้ ใบหญ้าฟ้าร้อง บางครั้งอาจเป็นสัญญาณของความฉุนเฉียว จากแม่ค้าขายปลาเค็ม กล้วยตาก และอาชีพใช้แดดฟ้าร้อง บางมุมอาจหมายถึง ความสั่นกลัว สะท้านสะเทือน กับเสียงกัมปนาท จนต้องกระชับกายและใบหูกับผ้าห่มแต่ที่แน่ๆฟ้าร้อง คือสัญญาณสำหรับการโปรยปรายของเม็ดฝนบนฟากฟ้าที่จะทยอยเม็ดน้ำลงโลมดิน .............................................สำหรับฝน เมื่อลอยหล่น อาจถูกตีค่าหลากหลายจากผู้คนฝน อาจหมายถึง การจราจรที่หนักข้อขึ้นอาจหมายถึง การหยุดชะงักของการพบปะของใครหลายคนอาจหมายถึง น้ำตาของผู้ที่ทำหัวใจหล่นหายไปกับความเศร้าอาจหมายถึง ความชุ่มเย็นดุจน้ำนมของมารดาแห่งโลกอาจหมายถึง ระเหยไอแล้งร้อนที่พวยพุ่งบนพื้นดินและท้องถนนหรือกระทั่งถึง ความสดชื่นรื่นรมย์ของดอกไม้ใบหญ้า ที่ระริกไหวตามสายลมยามฝนพรำ....................................................ฝนยังโปรยเม็ด ยังความชื่นชุ่มสู่เบิกบานบุรีอย่างสม่ำเสมอ นิรันดรแม้ว่าผู้คนบางพวกอาจก่นด่า หรือขลาดกลัวกับเสียงฟ้าผ่าแต่ฉันใด เรามิอาจปฏิเสธความงอกงามหรือสายรุ้งภายหลังฝนจากฟ้าได้.................................................พระเจ้าช่วยเบิกบานบุรุษ สุดสายฝน
walkคืนค่ำ ย่ำเย็น พระอาทิตย์ตกแล้วณ เบิกบานบุรี ที่ม่านความมืดแผ่ปลกคลุม ริมทางเท้าที่มีเสียงแตรรถยนต์ดังประปราย เป็นเพื่อนคลายเหงาเท้าสองข้างยังก้าวเดินไปบนบาทวิถี และแล้วเท้าทั้งสองข้างก็ไปหยุดยืนอยู่เคียงข้างเท้าสองข้างอีกคู่หนึ่ง.............................................ชายอ้วน ผมหยิก ตัวเหม็น เดินกระผลกกระเผลก ใช้มือยันกำแพงสังกะสีริมบาทวิถีเท้าข้างซ้ายบวมเป่ง มีเลือดไหล นัยตามีแววแห่งความเจ็บปวดรวดร้าว น้ำตาอาบไล้สองแก้มหิวข้าว ก็ถูกผลักออกจากร้านกระหายน้ำ ก็ถูกรังเกียจเดียดฉันท์ขึ้นรถเมล์ ก็ถูกไล่ลง.......................................................สองเท้าก้าวเดินไป แลเห็นสุนัขฝรั่งมีเจ้าของอุ้มป้อนขนมน้ำเมื่อถึงร้านของชำ จึงชื้อน้ำได้สามขวดแล้วเดินกลับมา ณ ชายอ้วนร้าวรานมือลูบหลัง ด้วยกรุณา และดีใจที่ชายอ้วนได้กินน้ำ...................................................ณ เบิกบานบุรี ชายหนุ่มส่งชายอ้วน ขึ้นรถแท็กซี่ใจดีที่ไม่รังเกียจในการพาไปส่งที่สถานีเพื่อนำชายอ้วนกลับสู่ปลายทางบ้านเกิดชายหนุ่มนับเงินที่เหลือในกระเป๋า โดยไม่รู้ว่าจะมีเงินเหลือถึงสิ้นเดือนหรือไม่แต่ก็ดีใจที่ หนึ่งพันบาท อาจหมายถึงความสุขในย่างก้าวของชายอ้วน................................................คืนค่ำ วังเวง เปลี่ยวเหงา ณ เบิกบานบุรี น้ำตาแห่งปิติยังหล่อเลี้ยงหัวใจชายหนุ่มอยู่ไม่คลายความรักยังแผ่ปลกคลุมไปทั่วเบิกบานบุรี ไม่ว่ายามมืดหรือสว่าง .............................................คุณพระด้วยช่วยคุ้มเบิกบานบุรุษ