
Seek
ณ เบิกบานบุรี วันที่ท้องฟ้าแจ่มใส เมฆขาวพราวเวิ้งฟ้า
ผู้คนต่างล้วนตามหา ดวงดาว ของตนเองเฉกเช่นทุกเมื่อเชื่อวัน
อรุณรุ่ง ทอแสง ประกายอบอุ่น ละมุนอาบไล้แขนนวล
เด็กชายกำลังคุ้ยเขี่ยตามหา ดวงดาว บนกองขยะมาขายเป็นเงิน เลี้ยงปากท้อง
แม่ค้า รวกเส้นก๋วยเตี๋ยว พลางคิดว่าสลากกินแบ่งจะช่วยให้ได้ไปยืนบนดาวดวงนั้น
หนุ่มสาว กำลังพลอดรักรำพัน และฝันว่ารักนิรันดร์ คือดวงดาวที่เราสองจะร่วมก่ายเกย
เด็กน้อยขายพวงมาลัย ในห่วงคำนึงของความน่ารัก ดวงดาว คือ ความลึกลับอันความอยากรู้อยากเห็นกระตุ้นให้แหงนมอง ยามพลบเย็น
ตะวัน จันทรา เคลื่อนคล้อยลอยเลื่อน ตะวันออกไปสู่ตะวันตก ซึ่งหามีไม่
ผู้คนมากมาย หลากหลาย วันวัย อาชีพ ฐานันดร หัวโขน ต่างเดินตามหาดวงดาวของตน
หญิงสาว อาจทำดวงดาวหล่นหายไปดวงแล้วดวงเล่า จึงซบกายลงบนเตียงนุ่ม ด้วยน้ำตาเปียกหมอน ร้าวราน
ชายหนุ่ม อาจกำลังตามหา ดวงดาวในแววตาของใครสักคน ในค่ำคืนอันมีแสงสีลีลาเร่งเร้า ร้อนทุรณ
เราท่าน ต่างสีสันและรายละเอียด ล้วนเร่งเร้าตัวตนเพื่อเดินตามหาดวงดาว ดวงนั้น
..............................
ณ คืนค่ำ ที่เบิกบานบุรี ดวงดาวพราวฟ้าสลับกับปุยเมฆสีเทา
เราท่านต่างยังคงแหงนมองดวงดาวของตนในทุกค่ำคืน ทั้งในยามตื่น และหลับ
แต่แท้จริง เราท่านล้วนดำรงอยู่ในเบิกบานบุรี
อันเป็นสถานที่หนึ่งบนโลก โลกอันเป็นดาวดวงหนึ่งที่บริสุทธิ์ งดงาม
........................
คุณพระด้วยช่วยคุ้ม
เบิกบานบุรุษ สุดหรรษา
No comments:
Post a Comment